Easy makup with eye shadow~*

เรา มาทำความรู้จักกับอายชาโดว์กันบ้างนะคะ

อายชาโดว์มีแบบฝุ่นและ เนื้อครีมค่ะ

2 ชนิดนี้ต่างกันยังไง?

ต่างกันที่เนื้อของ อายชาโดว์ค่ะ (ตอบแบบกำปั้นทุบดินมาก -*-)

อายชาโดว์จะมีเนื้อที่บาง เบากว่า... แต่แบบครีมจะติดทนกว่าค่ะ

อันนี้ก็เลือกใช้ได้ตามชอบของ แต่ละคนนะคะ

แต่สำหรับชนนี่นะ... ชอบทั้ง 2 อย่างเลย ฮ่าๆ(แล้วจะตอบเพื่อ?)

นอกจากนี้แล้วอายชาโดว์ยังมีทั้งแบบสีธรรมดา สีแวววาว หรือผสมกากเพชรอีกด้วย... ตามลักษณะที่แต่ละคนต้องการค่ะว่าอยากจะแต่งให้ออกมาเป็นยังไง ก็เลือกใช้ได้ตามความชอบของตัวเองเลย

มาพูดถึงขั้นตอนการแต่ง อายชาโดว์บ้างดีกว่า

สำหรับวัยเราๆที่ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้า เว่อร์แบบไปเดินแฟชั่นโชว์นะคะ

ก็มีวิธีใช้อายชาโดว์แต่งตาแบบใสๆมา แนะนำกัน

ขั้นแรกกับการเลือกสีของอายชาโดว์... ก่อนอื่นเลยต้องพึงตระหนักถึงตัวเราก่อนค่ะ

ประการสำคัญที่สุดเลย คือ... สีผิวกับอายชาโดว์

สำหรับสาวผิวขาวผ่องอาจจะไม่ค่อยมีปัญหากับขั้นตอนนี้เพราะเธอจะแต่งสีอะไร ก็ดูขึ้นไ
ปหมด

แต่สำหรับสาวผิวคล้ำนี่สิคะ... จะแต่งสีจัดจ้านก็ไม่ดี ไม่เหมาะ... เลยจะขอแนะนำโทนสีเอิร์ธโทนค่ะ

สี เอิร์ธโทนคือสีโทนน้ำตาล (ส่วนมากแพคเก็จอายชาโดว์จะไล่สีให้จากขาว-ครีม-น้ำตาลอ่อน-น้ำตาลเข้ม ค่ะ) หรือไม่ได้สีส้ม... โทนสีพวกนี้จะทำให้ดวงตาดูสว่างขึ้น และดูเป็น ธรมชาติค่ะ ^^

สำหรับสาวผิวขาว... ถ้าเลือกสีโทนสีก็จะทำให้ดวงตา ดูกลมโตขึ้นนะเออ!

มาถึงวิธีลงสีสันบนเปลือกตาเรา แล้ว... ตามนิตยสารต่างๆอาจจะมีวิธีให้ที่ทั้งอาจจะง่ายบ้าง ยุ่งยากบ้าง จะขอสรุปเอาเข้าใจง่ายๆจากที่ศึกษา และทดลองมานะคะ

ก็คือเบสิคๆ การ ลงสีอายชาโดว์จะมี 3 ระดับ

ระดับแรกเลย... เริ่มที่สีอ่อนค่ะ (จำพวกสีขาว สีเทาอ่อนๆ สีชมพูอ่อนๆเป็นต้น) เกลี่ยสีอ่อนเหล่านี้ไปให้ทั้งเบ้าตาเลยนะคะ (ตั้งแต่ขอบตาถึงคิ้วเลยค่ะ) พยายามเกลี่ยให้เนียนที่สุดเท่าที่จะทำได้

ระดับ ที่ 2 ... สีเข้มขึ้นมาอีกนิ (เช่นจากสีขาวมาเป็นสีเทา สีเทาอ่อนเป็นสีเทาเข้ม สีครีมเป็นสีน้ำตาลอ่อน เป็นต้น) ขั้นตอนนี้ให้สังเกตที่ตาเราค่ะ... ตรงที่นูนๆขึ้นมา(จากลูกตากลมๆข้างใน)นั้นแหละค่ะ... เราจะเริ่มใช้สีพวกนี้จาก หางตา ไล่มาที่หัวตา ให้ทั่วเปลือกตาที่นูนๆขึ้นมานะคะ(แต่ไม่ถึงคิ้ว นะ!) ควรจะเกลี่ยไล่ระดับให้หางตาเข้ม ไปจนอ่อนที่หัวตา และให้เนียนไปกับสีของเบ้าตาสีแรกที่เราลงด้วยนะคะ

ระดับที่ 3... สีเข้มที่สุด(เช่นสีน้ำตาลเข้ม สีดำ สีชมพูเข้ม เป็นต้น) อันนี้เราจะค่อยๆใช้แปรง(หรืออะไรก็แล้วแต่)สำหรับเกลี่ยที่ขอบตาค่ะ... อันนี้จะเน้นที่ขอบตาขึ้นมาประมาณ 2-3 มล. นะคะ เหมือนเดิมเลย เกลี่ยจากหางตาขึ้นมาที่หัวตา และให้แนบเนียนกับสีเดิมด้วยน้า

หลัง จากนี้... ใครจะเติมความคมเข้มด้วยอายไลนน์เนอร์ หรือจะใส่กากเพชรวิ้งๆเพิ่มก็ตามสะดวกเลยค่า

เพิ่มเติมเล็กๆน้อยๆ... การแต้มอายชาโดว์สีสว่างๆอย่างสีขาว หรือสีเงินที่หัวตา เป็นมุมสามเหลี่ยมจะช่วยให้ดวงตาดูสว่างขึ้นนะคะ

หรือจะเพิ่มการไล่โทนสีสว่างๆนี้ที่ขอบตาล่างจากหางตาไปหัวตาก็จะทำให้ด้วย ตาดูเด่นส
ว่างเช่นกันค่ะ ^^ (วิธีนี้ถ้าดูยากก็แนะนำให้ใช้อายไลเนอร์แบบดินสอสีขาวเขียนขอบตาล่างก็ช่วย ได้ค่ะ)

อย่าลืมเพิ่มขนตางอนสวยด้วยการปัดมาสคาร่าด้วยนะ

โป๊ะ แช๊ะ!

เท่านี้แหละค่ะ เราก็จะได้ตาสวยๆแล้ว เย้!

อันนี้ก็ แล้วแต่แต่ละคนแล้วนะคะว่าจะเลือกใช้สีอะไรกับสีอะไรในการแต่งตาของตัว เอง...(เคยเห็นในนิตยสารมีการใช้สีเข้มๆมาตัดกันด้วย สวยมาก... แต่ถ้าแต่งไปเรียนเพ่อนๆคงทักว่าเป็นนกแก้วล่ะเนอะ)

ขั้นตอนเหล่านี้ แม้ว่าการทำครั้งแรกจะดูยากนะคะ... ขอแนะนำให้ค่อยๆฝึกฝนค่ะ แล้วก้จะสามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว

แล้วสำหรับในชั่วโมงเร่งรีบ หรือคนที่ยังไม่คล่องกับการแต่งตาวิธีนี้... การลงแค่สีเดียวก็ช่วย ได้ค่ะ

กฏสำคัญก็คือ... ไล่จากหางตามาที่หัวตานั้นเอง (ถ้าลงสีเดียวไม่ต้องเกลี่ยขึ้นไปจนถึงคิ้วนะ!)

เครื่องสำอางค์สมัย นี้ก็มีให้เลือกตามสะดวกมากมาย... อายชาโดว์แบบแท่งก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ง่ายมากนะคะ

แค่เขียนลงไป แล้วเกลี่ยให้เรียบเนียนก็สวยได้เหมือนกัน

ขอให้สนุกกะการแต่งดวงตา นะคะ ^^

** ขอเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ... การไล่สีที่เปลือกตาสามารถเริ่มไล่จากหัวตาได้เหมือนกัน... แต่การไล่จากหางตาจะดูเป็นธรรมชาติกว่า และทำให้ดวงตากลมโตกว่าค่ะ