เคล็ดลับการเลือกแชมพูให้เหมาะกับเส้นผม
รู้ไหม แชมพูคืออะไร แรกสุด
ก่อนที่คุณจะติดสินใจเลือกซื้อแชมพูยี่ห้อใด ควรจะรู้เสียก่อนว่า "แชมพู"
ที่เราเรียกกันจนติดปากนั้น คืออะไร และควรจะทำอะไรกับผมของเราได้บ้าง
ที่แน่ๆ คือต้องทำให้ผมเราสะอาด นุ่มสลวย เป็นเงางาม มีกลิ่นหอม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแชมพูระบุไว้ว่า
โดยจุดประสงค์หลักของแชมพูก็คือ ต้องทำความสะอาดเส้นผมอย่างอ่อนโยนที่สุด
เพราะตลอดวันนั้น
ทั้งฝุ่นผมและสิ่งสกปรกทั้งหลายจะติดตรึงอยู่ที่หนังศีรษะและเส้นผมของเรา
ซึ่งลำพังใช้แค่น้ำล้างคงไม่ออกง่ายๆ ปัญหามีอยู่ว่า
ถ้าแชมพูที่เราใช้นั้น "แรง" เกินไป หนังศีรษะของเราก็จะพองตัว
ทำให้รูขุมขนเปิดกว้าง ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนัง
และยังทำให้เส้นผมแตกปลายได้อีกด้วย ดังนั้น
เราจึงควรใช้แชมพูสระผมที่มีค่าความเป็นกรดหรือด่าง หรือค่า pH ไม่เกิด
5.5
เพราะเป็นระดับที่เหมาะสมที่สุดกับสมดุลของความชุ่มชื่นของเส้นผมทั่วไป
ถ้าแชมพูมีความเป็นกรดมากเกินไป ผมของเราจะหลุดร่วง
และถ้ามีความเป็นด่างมากเกินไป
ก็จะทำให้เกิดช่องว่างหรือรูพรุนบนหนังศีรษะมากเกินไป
ส่งผลให้หนังศีรษะของเราอ่อนแอลงได้เช่นกัน
จับตาดูยี่ห้อ แล้วเราต้องมองหาส่วนผสมอะไรบ้างล่ะ
ในแชมพูสักขวด สำหรับมือใหม่ให้เริ่มที่ข้อมูลว่า
แชมพูทุกขวดประกอบด้วยส่วนผสมของสารขจัดคราบและสิ่งสกปรกซึ่งมีอยู่หลายชนิด
และมีความรุนแรงต่างกันด้วย
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงใช้สบู่เหลวสระผมไม่ได้
แม้ว่าจะมีสารทำความสะอาดเหมือนกัน
เนื่องจากสารขจัดคราบในสบู่นั้นมีอานุภาพที่แรงกว่าจนทำให้ผมเราหลุดร่วงได้
ส่วนประกอบอื่นๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงคือ
พวกสารเคมีกันบูดกันเสีย เช่น แอมโมเนี่ยม ลอรีล ซัลเฟท หรือแอมโมเนียม
อเร็ธ ซัลเฟท เป็นสารเคมีที่รุนแรงมาก
หากคุณเพียงเผลอเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง มันจะปล่อยก๊าซแอมโมเนียอกมา
ถ้าคุณใช้แชมพูที่เป็นด่างมากๆ แล้วยังผสมกับสารเคมีพวกนี้
จะทำให้ผมของคุณหลุดร่วงและสูยเสียความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ
ผลที่ตามมาก็คือผมคุณจะแห้งกรอบ แถมกลายเป็นผมแตกปลายอีกต่างหาก แล้วทำไมมีของพวกนี้อยู่ในแชมพูล่ะ
ก็เพราะเป็นสารเคมีราคาถูกที่ป้องกันแชมพูเสียได้และยังทำให้เกิดฟองเยอะๆ
ส่วนผสมที่แย่ที่สุดในแชมพูคือ โซเดียม ซี 14-16 โอเลฟิน ซิลโฟเนท
ซึ่งเป็นสารเคมีที่รุนแรงยิ่งกว่าพบในแชมพูเปลี่ยนสีผมบางชนิด
ที่ควรระวังก็คือสารโซเดียมคลอไรด์ หรือเกลือแกง
ที่ผู้ผลิตมักเอามาผสมก็เพราะมันเป็นสารราคาถูกที่ทำให้เนื้อแชมพูดูเข้มข้นขึ้น
ข้อเสียก็คือทำให้น้ำมันที่มีประโยชน์ต่อเส้นผมหายไปด้วย
แชมพูที่ดีต้องไม่มีส่วนผสมของเกลือ เราควรเริ่มกันที่แชมพูอ่อนๆ
และมีส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร
หรือเป็นแชมพูซึ่งมีราคาแพงกว่าตามท้องตลาดทั่วไป
ซึ่งก็เป็นเพราะส่วนผสมที่แพงกว่านั่นเอง
เรื่องของฟอง เรามักจะคิดกันว่าแชมพูยี่ห้อไหนก็เหมือนกัน
แต่ความจริงแล้วไม่ใช่นะคะ แขมพูส่วนมากจะประกอบด้วยสารเคมี
ยกเว้นแชมพูสมุนไพร ซึ่งอย่างมากที่สุดก็คือผสมสารกันบูด
ความเข้าใจผิดอีกอย่างก็คือแชมพูที่ดีต้องมีฟองมาก
ซึ่งไม่จริงอย่างเด็ดขาดเพราะถ้าแชมพูนั้นมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่น
มันจะไม่ค่อยมีฟองเท่าไหร่ อย่างแชมพูสมุนไพรก็ไม่ค่อยมีฟองมาก
ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื่นเป็นอย่งดี ซึ่งเราควรมองหาในฉลากก็เช่น
เวเจเทเบิล กลีเซอรีน (มักพบในแชมพูสมุนไพร) โจโจบา ออยล์ อะโลเวร่า
อะโวโด้ บอเรจ ออยล์ (มักพบในแชมพูสนุมนไพร) เกรฟซี้ด ออยล์
(เป็นสารปกป้องสีผม) ซันฟลาวเวอร์ ออยล์ วีทเยิร์ม อล์ คูคิวนัท
แมคาเดเมีย นัท ออยล์ (ทำให้เส้นผมเป็นเงางาม)
ประโยชน์ของสมุนไพร ทำไมต้องซื้อแชมพุสมุนไพรมาใช้
เพราะสารสกิดสมุนไพรนั้น นอกจากจะไม่ทำให้สภาพแวดล้อมเป็นพิษ
ยังอ่อนโยนต่อเส้นผมอีกด้วย ผู้ใช้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีแรงๆ
และปัญหาผมร่วง ยิ่งไปกว่านั้น
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสังเคราะห์ส่วนใหญ่จะผสมขี้ผึ้ง
สารขจัดคราบและซิลิโคนเข้าไปมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถล้างออกหมด
ส่วนสารที่สกัดจากดอกไม้และพืช เช่น ต้นเซจ โรสแมรี่ เน็ทเทิล
หรือลาเวนเดอร์ มักมีกลิ่นชื่นใจชวนผ่อนคลาย
จึงทำให้การสระผมเป็นกิจกรรมที่น่ารื่นรมย์
บทสรุปอีกประการในการเลือกแชมพูก็คือ
ควรตรวจสอบการลำดับส่วนผสม
ส่วนผสมแรกสุดของแชมพูที่ดีจะต้องเป็นน้ำเปล่านี่แหละ
ส่วนผสมต่อมาได้แก่แอลกอฮอล์ ส่วนแชมพูที่มีส่วนผสมของสารกันเสีย
ส่วนผสมเหล่านี้จะต้องอยู่ในลำดับ 3 หรือ 4
ไม่ควรจะเป็นอันดับแรกโดยเด็ดขาด
|