เคล็ดลับผิวสวยหน้าร้อน

ฤดู ร้อนทีไร นึกถึงอะไรที่สดใส คึกคักทุกที ช่วงเวลาลั้นลาของเรา ได้มาถึงแล้ว เย้ๆๆๆ  ฤดูร้อนมีสงกรานต์  ฤดูร้อนมีไอติมรสใหม่ ฤดูร้อนมีทะเลสวยๆ  ฤดูร้อนมีวันหยุดแสนสุข ฤดูร้อนมีความสนุกรออยู่ ฤดูร้อนมี  “แดด”  กรี๊ดดด…! แดด (แรงๆๆ)  ปัญหาใหญ่ของสาวๆ ที่ทำให้โปรแกรมเด็ดรับซัมเมอร์ต้องพับเก็บและนั่งคอตกอยู่บ้าน  ถึงเวลาแล้วที่สาวๆ ต้องลุกขึ้นมาร่วมปฏิบัติการเริงร่าท้าแดด กับ SPF ตัวฉกาจ และครีมกันแดดคู่ใจที่งานนี้ไม่ต้องหลบไปไหนไกล แถมควงหวานใจไปสวีต วี๊ดวิ่วท้าลมร้อนได้อย่างสบายอารมณ์

คำถามเด็ด ที่เผยเคล็ดลับ สำหรับการเลือกครีมกันแดดตัวเก่ง
พบกับเคล็ดลับ และเทคนิคพิเศษ โดยเภสัชกรสาวคนสวย วราภรณ์  ลิขิตจรรยากุล จาก Eucerin ที่วันนี้อาสามาให้ข้อมูลดีๆ พร้อมสารพัดวิธีดูแลผิวที่ถูกต้องในฤดูร้อน เพื่อเสริมความมั่นใจ  เผยผิวที่ขาว สวย ใส อยู่ตลอดเวลา

Q : สงสัยจัง SPF คืออะไร...?
A:  SPF  ย่อมาจาก  Sun Protecting Factor ค่าการปกป้อง รังสี UVB เหตุที่เป็นค่ารังสี UVBเพราะว่า รังสี UV มีหลายประเภท ทั้ง UVA , UVB และ UBC แต่รังสี UVC จะมาไม่ถึงโลก เพราะถูกกรองไว้ที่โอโซน  จึงมีแต่รังสีUVA และ UVB ที่ส่งผลเสียต่อสภาพผิวของคนไทยที่แตกต่างกัน ส่วน SPF เป็นค่าที่บอกถึงการปกป้องถึงรังสี UVB เท่านั้น

Q: SPF ต่างกันมีผลกับการปกป้องผิวแค่ไหน…?
A: การทำงานของค่า SPF  ให้ผลที่ต่างกันขึ้นอยู่ผิวของแต่ละคน  ที่ผ่านมาคนมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับค่า SPF  ซึ่งค่า SPF มักจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวว่าเวลาโดนแดด จะอยู่ได้นานขนาดไหน ผิวถึงเกิดอาการแดง ไหม้เกรียม ซึ่งโดยเฉลี่ยผิวของคนไทยอยู่ ได้ประมาณ 10- 20 นาที จะเกิดอาการแดง ผิดกับคนในชนชาติทางยุโรป ผิวจะขาวกว่าคนทางเอเซีย ก็จะไม่ถึง 10 นาที ผิวจึงเริ่มแดง  อย่างค่า SPF10, SPF20 , SPF50  จะสื่อถึงเวลาในการอยู่ในแดด ว่าสามารถอยู่ได้มากกว่าเดิมกี่เท่า โดยนำเวลาปกติของการอยู่ในแดดแล้วเกิดอาการแดง มาคูณ ค่า SPF ที่ใช้ จะทำให้ทราบเวลาในการปกป้องผิวว่าสามารถอยู่ในแดดได้ยาวนานแค่ไหนโดยไม่เกิด อาการแดง ไหม้เกรียม อย่างเช่น ถ้าเราไม่ได้ทาครีมกันแดด 10 นาทีก็จะแดง แต่ถ้าเราทา SPF 50  เท่ากับว่าคูณ 50 ออกมาเป็นเวลา 500 นาที  แสดงถึงค่าการปกป้องที่ยาวนานขึ้น  ไม่ได้บอกถึงจำนวนเท่าในการปกป้องผิว เพราะฉะนั้น SPF50 ที่นิยมใช้จะมีคุณสมบัติต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับลักษณะผิว จึงสรุปได้ว่าการใช้ SPF50  การปกป้องผิว ความยาวนาน ของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน

Q: ค่า SPF เท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม...?
A: จากที่แพทย์บอก คือ  SPF ยิ่งสูงก็ยิ่งปกป้องนาน มีประสิทธิภาพดี ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่ SPF 10-100 แต่ถ้าได้ศึกษาจริงๆ แล้ว SPF 50+ กำลังดี เพราะถ้ามากเกินไปจะไม่มีผลอะไรมากนัก เหมือนกราฟที่แสดงถึง SPF สูงขึ้น การปกป้องก็จะสูงขึ้น แต่พอเลยจุด 50 ไปแล้ว การปกป้องจะไม่ได้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  แพทย์จึงกล่าวว่า 50+ เพียงพอแล้ว ซึ่งทางยุโรปได้ออกมาตราฐานใหม่ 3 ระดับคือ SPF ต่ำ , SPF กลาง , SPF สูง ซึ่ง SPF สูงคือ 50+ ถือเป็นการปกป้องที่เพียงพอ และเหมาะกับผิวของคนไทย  แต่สำหรับสาวๆ ที่ไม่ได้โดนแดดบ่อย SPF 30 เป็นค่ากลางที่เหมาะสมที่สุด

Q: เวลาเลือกครีมกันแดด...ต้องดูจากอะไรบ้าง...?
A: ผิวคนไทยบอกค่า SPF ได้ยาก เพราะค่า SPF ที่ใช้ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคน  แพทย์จึงจะบอกไว้ว่า SPF ยิ่งสูงยิ่งดี ตราบใดที่เนื้อครีมไม่เหนียวเกินไป ผู้ใช้รับได้แค่ไหน แต่ต้องมาดูที่ ระยะเวลาการออกแดดว่ายาวนานแค่ไหน  ซึ่งจำเป็นมากสำหรับการเลือกครีมกันแดดมาใช้งาน

Q: ใช้ครีมอย่างไร ให้สวยใสเป็นที่สุด
A: ครีมกันแดด ต้องทาให้ทั่วถึงจะดี ถ้าทาในปริมาณน้อย SPF ที่ได้ก็จะน้อย อย่างครีมกันแดด SPF 50 แต่ถ้าทาบางมาก การปกป้องก็จะไม่ได้ 50 การปกป้องจะครบถ้วน ขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อครีมที่เพียงพอ ซึ่งคนไทยควรจะทาครีมในพื้นที่ผิวหน้าประมาณ 1 ช้อนชา ก็จะได้ค่าSPF ที่เพียงพอ ควรทาให้ทั่ว จนแน่ใจว่าครบทุกส่วนจริงๆ  และควรทาซ้ำ เมื่อสภาพผิวเริ่มมีอาการแสบและแดง โดยส่วนใหญ่คนไทยไม่ชอบทาซ้ำ ซึ่งตรงนี้ก็จะแก้ได้ด้วยการทา SPF สูงๆ ไว้ก่อน และถ้ามีการล้างหน้า เช็ดหน้าเกิดขึ้น แน่นอนเนื้อครีมย่อมสูญเสียไป จึงควรทาซ้ำทันทีเพื่อฟื้นฟูการปกป้องผิวให้กลับคืน 

Q: ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน ครีมทาหน้าหมด นำครีมทาตัวมาใช้แทนจะเกิดผลอะไรไหม...?
A: จริงๆ ไม่มีผล ถ้าไม่แพ้ สาเหตุที่ครีมกันแดดมีการแบ่ง ผิวหน้ากับผิวกาย เพราะว่า แต่ละเนื้อครีมได้ผ่านการทดสอบที่แตกต่างกัน ครีมสำหรับผิวหน้าจะผ่านการทดสอบกับผิวหน้า เช่นเดียวกันครีมสำหรับผิวกายจะผ่านการทดสอบกับผิวกาย ว่าคุณสมบัติของครีมแต่ละชนิดเหมาะกับสภาพผิวบริเวณไหน ซึ่งถ้าเกิดปัญหาตรงนี้ จะกังวลเรื่องของอาการแพ้มากกว่า ส่วนเรื่องคุณสมบัติในการปกป้องสามารถปกป้องได้เหมือนกัน

Q: ส่วนผสมของครีมกันแดดที่ควรสังเกต...สำหรับการใช้งาน
A: ในช่วงนี้ รังสี UVA เริ่มมาแรง ผิดกับเมื่อก่อนแค่ SPF สูงก็พอ แต่ปัจจุบันรังสี UVA ส่งผลเสียที่สูงและยาวนานกว่า รังสี UVB เพราะจะไปทำลายคอลลาเจน และ เซลล์ชั้นในของผิว ส่งผลให้การเลือกครีมดูจากค่า SPF อย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ ค่าการปกป้อง UVA ที่มีการปกป้องหลากหลายวิธี อย่างการใช้ครีมกันแดดที่เป็นสารดูดซับรังสี UV สามารถดูดซับได้ช่วงกว้างทั้ง UVA , UVB หรือส่วนสำคัญที่มาแรงในตอนนี้อีกส่วนหนึ่งคือการเป็นแอนตี้ออกซิแดนซ์ เพราะว่ารังสี UV จะทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ที่ไปทำลายคอลลาเจนในผิว และเซลล์ผิวข้างใน เพราะฉะนั้นควรจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารถโอบอุ้มเซลล์ผิว ปกป้องถึงเซลล์ผิวชั้นใน และปกป้องเซลล์ที่เป็นต้นกำเนิดของคอลลาเจน ลดการทำลาย และการเกิดริ้วรอย
ทำ ให้ครีมกันแดดในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องของการปกป้องผิวจากความหมองคล้ำอย่าง เดียว แต่เป็นการปกป้องเพื่อไม่ให้ผิวหมองคล้ำ และปกป้องไม่ให้คอลลาเจนถูกทำลาย ซึ่งควรดูทั้ง SPF การปกป้องรังสี UVA และเรื่องของแอนตี้ออกซิแดนซ์ 

Q: ขั้นตอนการลงครีมกันแดดสำคัญแค่ไหน สำหรับการแต่งหน้า…?
A: จริงๆ แล้วอาจไม่เกี่ยวกันมาก แต่สาวๆ บางคนที่แต่งหน้าแล้วใช้รองพื้นอยู่แล้วก็จะไม่ได้ใช้ครีมกันแดด ส่วนสาวๆ ที่ไม่ได้ใช้รองพื้นในการแต่งหน้าก็ใช้ครีมกันแดดแล้วแต่งหน้าทับเลย คือเหมือนเป็นสเตปที่แยกจากกัน ไม่ค่อยเกี่ยวกันเท่าไหร่นัก  

Q: เลือกครีมกันแดด อย่างไรให้หน้าสวย
A: ครีมกันแดด ถ้าให้พูดถึงเนื้อผลิตภัณฑ์มันเป็นความชอบของแต่ละคนมากกว่า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแต่งหน้า ไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำ หรือแบบครีม ก็จะต่างกันแค่เนื้อของผลิตภัณฑ์มากกว่า สามารถเลือกใช้สำหรับการแต่งหน้าได้แล้วแต่ความชอบ ซึ่งควรจะดูที่คุณสมบัติของเนื้อผลิตภัณฑ์มากกว่า ว่า SPF เท่าไหร่ ปกป้องรังสี UVA หรือเปล่า มีแอนตี้ออกซิแดนซ์ไหม เพียง 3 สิ่งก็ถือได้ว่าเป็นครีมกันแดดที่ดี ซึ่งเนื้อครีมจะไม่มีผลว่าบางเบา หรือหนาข้น แต่ถ้าเป็นเนื้อบางเบาก็ช่วยในเรื่องของการอุดตันรูขุมขนที่น้อยลง 

Q: ครีมกันแดดที่ดี สำหรับสาวไทย
A: เทรนด์ครีมกันแดดที่อยากแนะนำสำหรับคนไทย คือ
1. เนื้อควรจะเป็นน้ำเพราะจะบางเบา ทาง่าย ไม่ทำให้ผิวหน้ามัน
2. การปกป้องที่ต้องมีค่า SPF เหมาะสำหรับการใช้งาน
3. การปกป้องยูวีเอ เพื่อเซลล์ผิวที่แข็งแรง
4. แอนตี้ออกซิแดนซ์ ที่สามารถปกป้องได้ถึงเซลล์ผิว และช่วยปกป้องคอนลาเจนภายในผิว

ว๊าววว...! เพียงเท่านี้สาวๆ ก็ได้ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไปดับร้อนกันทั่วหน้า ไม่ว่าจะร้อนกายแค่ไหนงานนี้สู้ไม่ถอย แต่ถ้าร้อนใจหล่ะก็ ตัวใครตัวมันนะจ๊ะ…^^