คืนสมดุลให้ชีวิตคุณแม่ทำงาน
คืนสมดุลให้ชีวิตคุณแม่ทำงาน ตื่นตัวสดชื่นแจ่มใสในเช้าวันจันทร์ สดใสมีชีวิตชีวาอยู่เสมอแม้ในวันแสนวุ่นวาย ใครเป็นอย่างนี้บ้าง... ตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันจันทร์ แล้วปวดหัว เวียนเฮด แบบว่าแฮงโอเวอร์ เหมือนเมื่อคืนดื่มหนัก (ทั้งๆ ที่ไม่เคยแตะเล้ย เหล้ายา) ขอเรียกอาการนี้ว่า Blue Monday ก็แล้วกัน
อาการเริ่มส่อเค้ามาตั้งแต่เมื่อเย็นวันอาทิตย์ เมื่อรู้สึกตัวว่า พรุ่งนี้สินะ...วันจันทร์ วันที่ต้องออกไปทำงาน(อีกแล้ว)... ท้องไส้พานป่วนปั่นหวั่นไหว... เหมือนยังไม่ได้หยุดพักเลย นึกถึงงานออฟฟิศที่ทำเท่าไหร่เหมือนไม่จบ แล้วยังจะภาระที่บ้าน ลูกเต้าเหล่าสามีอีกล่ะ แบบนี้เป็นอาการของการ "เสียศูนย์" ค่ะ อะไรต่อมิอะไรในวิถีชีวิตประจำวันมันยุ่งเหยิงปนเปไปหมด
ดิฉันว่าชีวิตคนเราก็เหมือนเส้นด้าย เผลอไผลหน่อย มีสิทธิ์พันกันเป็นปมอีรุงตุงนังให้ต้องคอยสะสาง เพราะฉะนั้นเมื่อใดที่รู้สึกว่าชีวิตชักจะยุ่งขิงจนเกิดอาการปั่นป่วน ก็ควรจะจัดระเบียบเสียใหม่ ให้ชีวิตสามด้าน บ้าน-งาน-ตัวเอง บาลานซ์ลงตัว
ก่อนจะจัดระเบียบเสียใหม่ ลองเอาปมที่กระจุกกันเป็นก้อนมาคลี่ออกทีละเส้นสิคะ ปมแต่ละเส้นมักจะโยงใยส่งผลกระทบกันเป็นลูกโซ่ ไปทำงานสาย ทำให้ไม่สบายตัวสบายใจไปทั้งวัน ไปถึงก็รีบล่กๆ หยิบโน่นจับนี่ที่เริ่มมากองแต่เช้า ไหนจะเกรงสายตาเจ้านายที่คอยประเมินผลปลายปี ถ้าอย่างนี้ตื่นเช้าอีกนิดดีไหม เข้านอนเร็วขึ้น ถ้าทำได้จะรู้สึกว่าร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่และพร้อมจะรับมือกับอะไรต่อมิ อะไรในชีวิตประจำวัน
งานยุ่ง เพราะเรามั่วๆ กับมันหรือเปล่า ไม่มีลำดับความสำคัญก่อนหลัง ไม่มีตารางงาน เอางานมาทำที่บ้าน เอาเรื่องที่บ้านมาทำที่ทำงาน หรืองานมีปัญหา อุปสรรค ทำงานเกินตัว ลองตั้งหลักหาเวลานั่งคิดทบทวนว่าต้นตอปัญหานั้นคืออะไร แล้วแก้ให้ตรงจุด การตะลุยสะสางงานเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ ไม่ช่วยแก้ปัญหาได้จริงๆ หรือบางทีอาจต้องทบทวนว่า เป้าหมายชีวิตของเราคืออะไร เงิน ชื่อเสียง งานที่คิดฝัน ครอบครัว ความเป็นอิสระ ความสุขสงบ...
งานที่ทำอยู่นี้สนองตอบเป้าหมายชีวิตหรือเปล่า?
ภาระที่บ้านมาก "อะไรๆ ก็ชั้น!! ไหนจะหาเงิน ไหนจะงานบ้าน ไหนจะเรื่องลูก" เห็นใจผู้หญิงยุคนี้จริงๆ เลย มือก็ไกว ดาบก็แกว่ง ปากก็สั่งการ จะไม่ให้สติแตกยังไงไหว ลองตั้งสติใคร่ครวญดูว่า เป็นเพราะเราไม่ยอม'วาง'ภาระ เองหรือเปล่า ไม่ยอมเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ ประมาณว่า 'หญิงเหล็กไม่ร้องขอความเห็นใจ' หรือเราเป็นพวกเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์ ใครทำไม่ถูกใจเท่าตัวเองทำ หรือลึกๆ แล้วเราก็มีความรื่นรมย์กับภาระนั้น ผู้หญิงบางคนชอบทำงาน'แมนๆ' ประเภทออกแรง ใช้เครื่องไม้เครื่องมือ
ลูกล่ะคะ โตป่านนี้แล้ว ช่วยเหลือตัวเองและแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ได้บ้างไหม เข้าใจดีว่าเด็กยุคนี้ฝึกให้ทำงานบ้านยากเย็น เพราะเราไม่ได้ฝึกกันมาแต่เล็กๆ ถึงวันที่เราไม่ไหว ก็ต้องยอมเหนื่อยฝึก เพื่อเราจะสบายขึ้น แล้วเขาจะเก่งและภูมิใจที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบภาระในบ้านด้วย
ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง หน้าตา ผมเผ้าไม่เคยใส่ใจ เดินผ่านกระจก ต๊กกะใจ นึกว่าเห็นแม่หรือยายตัวเอง(ตอนแก่) เสื้อผ้าเช้าขึ้นหยิบอะไรได้(ที่ไม่ต้องรีด)ก็ใส่ๆ ไปยังงั้น เพราะมัวแต่ทำงาน หาเงิน ดูแลลูกดูแลบ้าน หมดไปแล้ว หนึ่งวัน หนึ่งเดือน หนึ่งปี... ชีวิตก็เลยซ้ำซาก เซ็งๆ
ขอให้ส่องกระจกมองตัวเองอย่างพินิจพิเคราะห์ แล้วถามว่า "ฉันชอบตัวฉันไหม ฉันอยากเป็นอย่างไร"
การกลับมาสนใจตัวเอง จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เราหาเวลาให้ตัวเอง เช่น หาเวลาไปช้อปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ของแต่งตัวกระจุกกระจิก ออกกำลังกาย ทำโยคะ อ่านหนังสือ หรือแม้แต่นอนพักให้เต็มอิ่ม
เริ่มจากการแต่งตัวก่อนก็ได้ แม้จะไม่มีแรงบันดาลใจเหมือนสาวๆ ที่แต่งตัวให้หนุ่มๆ ดู ขอให้คิดว่า แต่งให้ตัวเองดูก็แล้วกัน เวลาเห็นตัวเองในกระจกหรือเวลาถ่ายรูป อืมม...เราก็ยังดูดีอยู่นะ มีกำลังใจออก... ทีนี้เราก็จะหาเวลาสำหรับตัวเองในเรื่องอื่นๆ พอแกะปมเหล่านี้ออกแล้ว เราลองมาจัดบาลานซ์กันใหม่ ให้ลงตัวทั้งเรื่องงาน บ้าน และตัวเอง... แต่อย่าทำให้มันซีเรียสจนกลายเป็นงานขึ้นมาอีกชิ้นหนึ่งล่ะ ทำตามกฎของการสมดุลชีวิตดีกว่า มีอยู่ว่า "จงทำทุกอย่างให้ง่าย ทำสม่ำเสมอ และยืดหยุ่น"
ฟังดูง่าย แต่ไม่ง่ายที่จะทำ เพราะมักจะติดอยู่ที่ความเคยชินของเราค่ะ อาจจะต้องฝืนตัวเองในตอนแรก กับการเข้ม'กับตารางชีวิตประจำวันซึ่งจะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ตื่นแต่เช้า ออกกำลังกายเล็กน้อย กินอาหารเช้า ดูแลเด็กๆ ให้ช่วยเหลือตัวเองและรู้จักเวล่ำเวลาให้มากที่สุด ให้ลูกรู้ตารางชีวิตของเขาว่าเขาควรทำอะไรตอนไหน
พอถึงที่ทำงานก็ทำอย่างเดียวกัน มีตารางงานกำกับการทำงาน เชื่อว่า working mom ทั้งหลายคงจะถนัดเรื่องการวางแผนและตารางงานการต่างๆ อยู่แล้ว ขอให้สำรวจอีกทีว่า ในตารางนั้นมีการวางแผนพักผ่อนของตัวเองอยู่หรือเปล่า
สมุดบันทึก อย่ามีแต่เรื่องสิ่งที่ต้องทำ จดลงไปด้วยว่า สิ่งที่ฉันอยากทำ สิ่งที่ฉันอยากได้ สถานที่ที่ฉันอยากไป... แล้วทำให้เป็นจริง แล้วไม่ต้องรอเวลาที่จะผ่อนคลายในช่วงพักร้อนเท่านั้น ระหว่างดำเนินชีวิตแต่ละวัน หัดเป็นคน'ง่ายๆ' บ้าง เพื่อผ่อนเพลาภาระทางใจ... ลูกยังทำได้ไม่ดีในวันนี้ พรุ่งนี้เอาใหม่... ที่เคยโกรธ โมโหใครง่ายๆ ก็เบาๆ ลง ทำสม่ำเสมอจนกลายเป็นความเคยชิน แล้วชีวิตจะง่ายขึ้น ...เพราะได้สมดุลทั้งงาน บ้านและตัวเอง
|