สอนลูกวัย 8 ขวบ ให้สวดมนต์ก่อนนอน
คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจก่อนว่าการสวดมนต์คืออะไร ที่จริงแล้วการสวดมนต์คือการสาธยายธรรมที่ทำให้เราหลุดพ้นได้ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา
ในที่นี้การที่คุณพ่อคุณแม่จะสอนลูกให้สาธยายมนต์ คุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ขณะนั้นเราต้องการให้ลูกของเราทำด้วยความสุข ให้ใจของเขาร่าเริงเบิกบานในการที่จะใช้วาจาของเขาให้เป็นไปอย่างคนที่มีสัมมาวาจา
การสอนเด็ก 8 ขวบให้สวดมนต์นั้น...การสวดมนต์ต้องเป็นจังหวะจะโคน คล้องจอง ทำให้เด็กสนุกสนานและร่าเริงเบิกบานที่จะทำเอง...บังคับไม่ได้
ถ้าสวดมนต์ในบทบาลีไม่ได้ ก็ให้สวดบทแปลซึ่งมีภาษาที่เข้าใจง่าย หรือให้สวดสรภัญญะพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เหมือนในสมัยก่อนที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ยังเป็นเด็ก
เราได้สวดบทสรรเสริญพระพุทธคุณในทำนองสรภัญญะ ที่ว่า “องค์ใดพระสัมพุทธ สุวิสุทธสันดาน ตัดมูลกิเลสมาร บ่มิหม่นมิหมองมัว หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว ราคีบ่พันพัว สุวคนธกำจร...”
จะเห็นว่าปัจจุบันเราท่านก็ยังจำกันได้ดี เพราะเป็นคำคล้องจอง เป็นจังหวะจะโคน ความหมายไม่ยาก จึงง่ายต่อการเข้าใจ และก่อให้เกิดความซาบซึ้งใจโดยไม่รู้ตัว
หากสักแต่ว่าท่อง ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ความหมาย ก็ยากที่จะเข้าใจ การต่อยอดก็ไม่เกิด
การสวดมนต์ไม่ใช่การบังคับให้ออกเสียง การสวดมนต์คือการออกเสียงด้วยความสมัครใจที่มีศรัทธา ด้วยความเข้าใจ ความเคารพ และซาบซึ้งใจ
การสวดมนต์จึงเป็นเรื่องที่บังคับไม่ได้ แต่ต้องทำให้กลายเป็นเรื่องสนุกสนาน ร่าเริงเบิกบาน และน่าสนใจ เข้าใจง่ายสำหรับเด็กๆ
อย่างเช่น เด็กๆ ที่เข้าโครงการบวชพุทธสาวิกาภาคฤดูร้อนที่เสถียรธรรมสถาน
เด็กๆ มีอายุตั้งแต่ 5 ขวบ ซึ่งนับว่าเด็กมาก
แต่ทุกครั้งที่มีการให้พร…“ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง ห้วงน้ำที่เต็มย่อมยังสมุทรสาครให้บริบูรณ์ได้ ฉันใด เอวะเมวะ อิโต ทินนัง เปตานัง อุปะกัปปะติ ทานที่ท่านอุทิศให้แล้วแต่โลกนี้ ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วได้ ฉันนั้น..”
แม่ชีน้อยทุกคนก็สามารถให้พรได้อย่างพร้อมเพรียง เป็นจังหวะจะโคน งดงาม
เพราะอะไรหรือ ก็เพราะว่าเด็กๆ เข้าใจความหมาย
และรู้ว่าสิ่งที่ทำ มนต์ที่สวดนั้น...จะยังความสุขแก่ตนและคนทั่วไปด้วยนั่นเอง
|