มารู้จัก บลัชออน ให้มากชึ้น
ถ้าพูดถึง บลัชออน หลายๆคนอาจจะคุ้นหูกันเพราะเคยได้ยินเรียกขานมาอย่างนั้น แต่ในทางเทคนิคแล้ว เขาเรียกกันว่าบลัชเชอร์ ซึ่งมาจากคำว่า บลับ (blush) อันแปลว่าอาการหน้าแดงแก้มแดงเพราะเลือดสาวฉีดขึ้นหน้าด้วยความอายขวยเขิน
แต่เดิมนั้นบลัชยังถูกใช้เป็นเทคนิคในการแต่งหน้าให้ได้รูป ดูมีโหนกแก้ม สันแก้ม ซึ่งผลที่ได้กลับดูไม่เป็นธรรมชาตินัก ที่จริงก็ควรใช้บลัชตรงตามความหมายเดิมดีกว่า นั่นคือการมอบแก้มระเรื่อเป็นสาวอ่อนวัยสุขภาพดี
เวลาเลือกสีบลัช จงจำแนกให้ออกว่า สีพีชกับสีชมพูต่างกันอย่างไร เพราะสีเหล่านี้จะช่วยเน้นโทนสีผิวตามธรรมชาติของคุณและอย่าตัดสินสีจากบลัชใต้ตลับ หรือกะบะตัวอย่าง ให้ลองแต่งที่พวงแก้มหรือเนียนแก้มของคุณให้เห็นจะๆไปเลย
ข้อแนะนำในการเลือกสีบลัชเชอร์ให้เข้าสีผิวหน้า - ผมสีอ่อน : (สีน้ำตาล)/ ผิวสีอ่อน (ขาวเหลือหรือขาวอมชมพู) ใช้บลัชสีชมพูอ่อน - ผมสีอ่อน/ผิวสีเข้ม : ใช้บลัชสีชมพูอมน้ำตาลเหลือง (Tawny Pink) - ผมสีเข้า(สีดำ) / ผิวสีอ่อน : ใช้บลัชสีชมพูกุหลาบ - ผมสีเข้ม /ผิวสีเข้ม : ใช้บลัชสีชมพูอมน้ำตาล - ถ้าคุณทำสีผมเป็นสีแดง สีส้ม น้ำตาลอมส้ม แต่ผิวสีอ่อน : ใช้บลัชสีพีชอ่อน - ถ้าคุณทำสีผมเป็นสีแดง สีส้ม น้ำตาลอมส้ม แต่ผิวสีเข้ม : ใช้บลัชสีพีชเข้ม - ผมสีเข้ม /ผิวเดิมสีอ่อน แต่ไปอาบแดดจนเป็นสีทอง : ใช้บลัชสีน้ำตาลเข้ม - ผมดำ /ผิวดำ : ใช้บลัชสีอิฐ
อย่างไรก็ตาม กฎทั่วไปในการเลือกบลัชเชอร์คือเลือกเฉดสีที่เข้ากันได้ดีกับโทนสีผิวของคุณ คุณอาจเลือกสีที่อ่อนกว่า หรือเข้มกว่าก็ได้ตามเทรนด์แฟชั่น
ประเภทของบลัชเชอร์ 1. บลัชเชอร์แบบฝุ่น ควรใช้ทากับแก้มที่ลงรองพื้น และแป้งฝุ่นผัดหน้าแล้ว วิธีการใช้บลัชเชอร์แบบนี้ให้ใช้แปรงปัดแก้มขนนุ่มขนาดใหญ่คลุมบลัชก่อนแล้วเคาะให้ผงบลัชเชอร์กระจายตัวก่อนทาแก้ม ถ้าคุณเผลอทาบลัชเชอร์บนแก้มมากเกินไป ใช้หลังมือของคุณแตะบลัชเชอร์ออกเบาๆ ยอมเสียบลัชทิ้งไปสักเล็กน้อยดีกว่าทาเสียจนแก้มแดงปลั่งเหมือนโดนตบ
ข้อแนะนำที่ดีก็คือ ใช้แต่น้อยก่อน ถ้าคิดว่ายังมองไม่เห็น ก็ค่อยเพิ่มปริมาณเป็นสองเท่า เริ่มไล้สีตรงส่วนที่กินบริเวณมากที่สุดของแก้มคุณ ก็คือใต้โหนกแก้ม หรือสันแก้มตรงตำแหน่งใต้ตา จากนั้นยิ้มให้กับตัวเองในกระจก และปัดบลัชไล่ขึ้นตามแนวสันแก้มขึ้นไปหาขมับ เกลี่ยสีให้กลมกลืนกับสีผิวขึ้นไปหาแนวตีนผม เพื่อให้ละเมียดละไมเป็นธรรมชาติ
2. บลัชแบบครีม บลัชเนื้อครีมเรียกได้ว่าเป็นการแหกกฎความงามแบบดั้งเดิม เพราะต้องใช้ปลายนิ้วทาแทนที่จะเป็นแปรง ซึ่งต้องทาลงบนแก้มที่ลงรองพื้นแล้ว แต่ยังไม่ลงแป้งฝุ่น บลัชชนิดครีมมีคุณสมบัติในการมอบความเปล่งปลั่งสดใสให้แก่ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ก็คือแตะบลัชเชอร์เนื้อครีมสองสามจุดลงบนแก้มของคุณ จากพวงแก้มขึ้นไปหาโหนกแก้ม ใช้ปลายนิ้วของคุณเกลี่ยไล้ทาให้กลมกลืน เพิ่มเติมลงไปอีกเพื่อให้ได้ลักษณะตามที่คุณต้องการ คุณอาจใช้ฟองน้ำแต้มรองพื้นมาช่วยเกลี่ยผสมกับบลัชเชอร์ให้กลมกลืนได้
3. บลัชเชอร์แบบเหลว มีเนื้ออ่อนใสเป็นน้ำ ซึ่งจะว่าไปแล้วทำให้นึกถึงที่ทาแก้มในยุคโบราณ วิธีใช้ก็เหมือนกับการใช้บลัชแบบครีม แต้มสองสามจุดบนแก้ม และแตะๆๆๆเพื่อไล้สีให้กลมกลืน แต่การใช้บลัชเชอร์แบบเหลวคุณจะทาแป้งฝุ่นก่อนก็ได้ และเมื่อแตะบลัชเชอร์เสร็จแล้ว อาจใช้แป้งฝุ่นไล้ทับอีกครั้งให้ดูระเรื่อเป็นธรรมชาติ
วิธีการใช้บลัชเชอร์โดยทั่วไป ควรเริ่มจากการรู้จักรูปหน้าของตัวเอง ดูว่าโหนกแก้มสูงไปหรือว่าหน้าแบนไป และกฎสำคัญก็คือทุกๆอย่างให้ง่ายเข้าไว้ พร้อมกับลงทุนซื้อแปรงปัดแก้มดี
ลองกันดูค่ะ 1. จงไปยืนหน้ากระจก และยิ้ม เอามือแตะแก้มบริเวณที่ต้องโดนหมอนเวลานอน จุดนั้นแหละจุดเริ่ม 2. ปัดสีบลัชวนเป็นวง อย่าลืมเคาะแปรงหนึ่งทีก่อนทาบลัช 3. หยุดยิ้มได้แล้วค่ะ ถึงเวลาปัดแปรงขึ้นปัดแปรงลง 4. ถ้าต้องการใบหน้าของเด็กสาวอ่อนวัย แตะแปรงบลัชเชอร์ไปตรงหน้าผาก สันจมูกและคาง เพื่อช่วยสะท้อนแสง
สำหรับคนที่คิดว่าบลัชเชอร์แบบแป้งไม่เหมาะกับตัวเอง เพราะถือแปรงไม่ถนัด ก็ใช้แบบครีมหรือแบบเหลว เพราะปลายนิ้วจะช่วยให้คุณได้สัมผัสและสื่อสารกับผิวแก้ม ทว่าสิ่งสำคัญคือการเกลี่ยหรือแตะๆๆ ไม่ใช่ปาดเสียจนเป็นทางม้าลาย อย่าลืมว่าบลัชแบบครีมหรือแบบเหลวสมควรไล้แป้งฝุ่นทับเพื่อทำให้ดูว่าแก้มของคุณเปล่งปลั่ง แดงระเรื่อมาจากเลือดฝาดในแก้มสาว
มีผลิตภัณฑ์ประเภทบลัชเชอร์อีกชนิดที่ให้ความงดงามเปล่งปลั่ง โดยไม่ใช่สีแดงระเรื่อนั่นคือผลิตภัณฑ์บรอนเซอร์ที่จะทำให้ใบหน้าของคุณดูเรืองรอง วาวใสเหมือนไปโดนแดดมา เวลาเลือกสี อย่าใช้บรอนเซอร์ที่มีสีเข้มกว่าเฉดผิวสีแทนตามธรรมชาติของคุณ
บรอนเซอร์มีเนื้อผลิตหลายแบบ อย่างเป็นแป้ง เป็นเจล เป็นครีม ทุกชนิดล้วนทำให้แก้มของคุณดูระเรื่อเรืองรอง และเซ็กซี่ อย่างไรก็ดี ถ้าไม่ใช่บรอนเซอร์แบบแป้ง ซึ่งต้องใช้ร่วมกับพัฟหรือแปรงปัดแล้ว นั่นหมายความว่าคุณต้องพึ่งปลายนิ้ว ซึ่งบ่อยครั้งที่เมื่อบรอนเซอร์แห้งแล้วแก้มยังไม่แวววาวพอทั้งที่ความเข้มของสีเป็นตามที่ต้องการ วาสลีนคือตัวช่วยชั้นดีให้คุณทาทับเพิ่มความวาวใส
|