ช่วงนี้อากาศร้อนมาเยือนแบบเต็มๆ กันแล้วฝากความห่วงใยไปถึง คนเป็นพ่อแม่ด้วยละกัน
เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมพอดิบพอดี พ่อแม่จำนวนมากมักจะพาลูกหลบร้อนไปเที่ยวทะเล
ทั้งที่เอาเข้าจริงน่าจะบอกว่าหลบร้อนในเมืองไปเจออากาศที่ร้อนกว่าที่ทะเล
นะเนี่ย...!!!ก็เลยอยากฝากประเด็น อย่าประมาทเรื่องแสงแดดในช่วงอากาศร้อนระอุแบบนี้
โดยเฉพาะเด็กๆ ทั้งหลาย
เป็นเรื่องของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องระมัดระวังเรื่องแสงแดดให้เจ้าตัวน้อยของเราด้วย
ที่ผ่านมา
ความเข้าใจในเรื่องการดูแลลูกขณะพาลูกไปเที่ยวทะเลในบ้านเรายังคลาดเคลื่อนอยู่มาก
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเจ้าแสงแดด แสงแดด
ประกอบด้วย พลังงานแสงหลายชนิด ที่เรารู้จักและ คุ้นเคยกันดี ก็คือ
แสงอัลตราไวโอเลต ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ แสงอัลตราไวโอเลตชนิด เอ, บี และ ซี
(UVA, UVB, UVC) แต่แสงอัลตราไวโอเลตที่ก่อปัญหาให้กับผิวหนังของคนเรามีสองชนิด คือ
แสงอัลตราไวโอเลต เอ และ บี เท่านั้น
ปริมาณของแสงอัลตราไวโอเลต
แตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่ ฤดูกาล สภาพอากาศ และช่วงเวลา ของวัน
ประเทศที่อยู่แถบเส้นศูนย์สูตร อย่างบ้านเราได้รับปริมาณแสงอัลตราไวโอเลตจำนวนมาก
และเจ้าแสงอัลตราไวโอเลต เอ
ก็มีความยาวช่วงคลื่นยาวสามารถผ่านลงในชั้นผิวหนังของคนเราได้ลึกกว่าแสงอัลตราไวโอเลต
บี
จริงอยู่ว่าแสงแดดมีประโยชน์
ต่อผิวหนังของมนุษย์ เพราะช่วยกระตุ้นให้มีการสร้างวิตามินดี
แต่การโดนแดดในปริมาณที่มาก หรือระยะเวลานาน
ก็ส่งผลเสียให้กับเราอย่างมากมายเช่นกันผลของแสงอัลตราไวโอเลตต่อผิวหนังของเรา
ที่พบกันบ่อยๆ ก็คือ ผิวหนังเกิดการไหม้แดง (Sunburn) โดยเฉพาะการโดนแดดในช่วง
10.00-16.00 น. เป็นระยะเวลานาน ยิ่งถ้าอยู่บริเวณชายทะเล
จะมีการสะท้อนของแสงอัลตราไวโอเลตจากน้ำทะเล หรือทรายอีกต่างหาก
ไม่เฉพาะบ้านเราเท่านั้น
ในต่างประเทศก็ทำงานวิจัยเรื่องผลกระทบแสงแดดต่อผิวหนังเด็กเช่นกั ทีมนักวิจัยจาก
ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาเด็กผิวขาวจำนวน 681 คน เกี่ยวกับจำนวนไฝ
ที่เพิ่มขึ้นบนผิวหนัง
ซึ่งไฝเป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งที่พัฒนาไปสู่การเป็นมะเร็งผิวหนัง
ผลการศึกษาพบว่า จำนวนครั้งที่ผู้ปกครองพาลูกไปไปเที่ยวทะเลและโดนแสงแดดริมทะเล
มีความเชื่อมโยงกับการเพิ่มจำนวนของไฝที่มากขึ้นได้ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์
เตือนผู้ปกครอง
ว่าควรเพิ่มความระมัดระวังในการพาลูกไปเที่ยวทะเล
เพราะเป็นสถานที่ที่มีแสงแดดเข้มข้น และผิวหนังของเด็กมักจะได้รับแสงแดดเต็มที่
หากไม่มีชุดว่ายน้ำมาปกปิด“ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กโดนแสงแดดในช่วง 10.00-16.00
น.นานเกินไป โดยเฉพาะเด็กเล็ก เพราะเป็นช่วงที่แสงแดดมีความเข้มข้นสูง
จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังในเด็กได้ แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้
ก็ควรให้เด็กสวมเสื้อแขนยาว”
ความเชื่อผิดๆ ว่าครีมกันแดดช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ 100%
นั้น ในความเป็นจริง เด็กๆ มักเพลินกับการเล่นจนใช้เวลาริมหาดนานเกินกว่า
ที่ครีมกันแดดจะสามารถปกป้องได้ เพราะในช่วงที่แดดแรง
ครีมกันแดดจะสามารถปกป้องผิวได้เพียง 1.30-2 ชั่วโมง จึงควรทาครีมกันแดดซ้ำ
และพบว่า เด็กผู้ชายมีโอกาสเพิ่มจำนวนไฝ สูงกว่าเด็กผู้หญิง 19%
ซึ่งอาจเป็นเพราะเด็กผู้ชายชอบเล่นกลางแจ้งมากกว่าเด็กผู้หญิง
การรู้จัก
ปกป้องผิวจากแสงอัลตราไวโอเลตตั้งแต่เด็กโดย เฉพาะก่อนอายุ 20 ปี
และดูแลอย่างสม่ำเสมออย่างถูกวิธี
ก็เท่ากับเป็นการปกป้องผิวหนังของลูกเราไม่ให้เสื่อมไปก่อนวัยอันควรนั่นเอง
เทคนิคในการดูแลผิวเมื่อต้องออกแดด ควรทาโลชั่น หรือ ครีมกันแดดสำหรับเด็กให้ลูกก่อนออกแดดทุกครั้ง และควรทาซ้ำทุกๆ 2
ชั่วโมง ที่สำคัญต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทีมีคุณภาพเหมาะสำหรับเด็กและมีค่า SPF (Sun
Protect Factor) อย่างน้อย 15 เท่า เพราะค่า SPF
ที่สูงจะสามารถปกป้องแสงแดดได้ดีกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำกว่า
กรณีที่ต้องว่ายน้ำควรเลือกผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดชนิดกันน้ำได้ด้วย
นอกจากผิวหนังแล้ว
ก็ควรทาลิปสติกที่มีสารกันแดดด้วยส่วนการจะเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เท่าไหร่
ถึงจะเหมาะสม ก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของแต่ละคน
สำหรับคนที่ไปเที่ยวทะเลควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง และเลือกใช้แบบกันน้ำ
water resistant และควรทาซ้ำทุก 2-3 ชม.
- เลือกสวมเสื้อผ้าใส่สบาย
แขนยาวขายาว สวมหมวกทุกครั้งที่ลูกต้องออกแดด แม้จะเล่นทรายหรือน้ำทะเลก็ตาม
และควรสวมแว่นตากันแดดด้วย
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้ง
ช่วงเวลาแดดแรงจัดระหว่าง 10.00-16.00 น.หากไม่สามารถหลบเลี่ยงการออกแดดได้
และไม่ได้ทาครีมกันแดด ก็ควรทาครีมบำรุง (After sun) ทันที
- กำหนดเวลาในการเล่นทะเล
หรือทรายไม่เกินหนึ่งชั่วโมง เน้นเล่นในช่วงเช้าไม่เกิน 10.00 น.หรือหลัง 16.00
น.จะช่วยป้องกันผิวหนังจากแสงแดดต่อได้
- ผิวของเด็กได้รับผลกระทบจากแสงอัลตราไวโอเลต
ไม่ต่างจากผิวของผู้ใหญ่ ถ้าต้องเจอกับแสงแดดในปริมาณมากตั้งแต่เด็ก
ผิวหนังก็จะเสื่อมและโดนทำลายเร็วกว่าปกติ ดั้งนั้น เด็กควรได้รับการดูแล
ปกป้องเช่นเดียวกับผู้ใหญ่เด็กสามารถใช้ครีมกันแดดได้ตั้งแต่อายุหกเดือนขึ้นไป
แต่ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าให้เด็กเล็กต่ำกว่าขวบโดนแสงแดดแรงๆ โดยตรง ควรหลีกเลี่ยง
และใส่เสื้อผ้าที่ค่อนข้างมิดชิดเพื่อป้องกันแสงแดด
ปิดเทอมนี้
ผู้ปกครองทุกท่านคงไม่ต้องกังวลและกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผิวของลูกเมื่อต้องโดนแสงแดด
คงเที่ยวทะเลได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น
|